คุณจะได้รับคำแนะนำ และข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อช่วยคุณในการกรอกข้อมูลในส่วนต่างๆ

i) เลือก 'ส่งเป็นเอกสาร' หรือ 'บรรจุภัณฑ์' ตามประเภทชิปเมนต์ของคุณ

ii) สำหรับการจัดส่งเอกสาร ให้เลือกประเภทเอกสารจากรายการดรอปดาวน์

ถัดไป คุณจะได้รับแจ้งให้ระบุรายละเอียดสินค้าที่คุณจัดส่ง การป้อนรายการสินค้าในการจัดส่งชิปเมนต์ของคุณจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรสามารถจำแนกประเภทชิปเมนต์ของคุณได้อย่างถูกต้อง และสามารถเคลียร์พัสดุของคุณได้อย่างรวดเร็ว

-          กรอกรายละเอียดรายการสินค้าของคุณให้ถูกต้องที่สุด หรือคุณอาจใช้ปุ่ม 'สร้างรายละเอียดสินค้า'

-          คุณยังสามารถใช้ 'รหัสสำหรับการค้นหา' เพื่อค้นหารหัสภาษีสำหรับสินค้าของคุณได้

คุณอาจระบุค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการจัดการชิปเมนต์ของคุณ เช่น ค่าธรรมเนียมการจัดการ บรรจุภัณฑ์ การประกันภัย ฯลฯ หากมี

ทางเลือก: มีประเภทสินค้าที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แสดงเป็นเมนูแบบดรอปดาวน์ เมื่อคุณป้อนคำอธิบายโดยย่อเกี่ยวกับสินค้าของคุณ เลือกรายการที่คล้ายกับรายการของคุณมากที่สุด จากนั้นระบบจะกำหนดรหัสสินค้าให้กับรายการนั้น

ทางเลือก: กรุณาระบุอากรและภาษีที่คำนวณไว้ล่วงหน้าในใบกำกับสินค้า (หากผู้รับชำระเป็นส่วนหนึ่งของราคาสินค้าที่จัดส่ง)

ทางเลือก: คุณอาจรวมข้อมูลอ้างอิงสำหรับชิปเมนต์ของคุณในช่องด้านล่าง คลิกที่เครื่องหมาย [ + ] เพื่อเพิ่มข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติม หากมี คุณสามารถเพิ่มข้อมูลอ้างอิงได้สูงสุด 50 รายการต่อชิปเมนต์ โดยข้อมูลอ้างอิงรายการแรกเท่านั้นที่จะพิมพ์ลงบนใบนำส่งสินค้า (waybill)

• เราขอแนะนำการปกป้องที่ครอบคลุมนี้สำหรับเอกสาร พัสดุอันมีค่า หรือพัสดุส่วนตัวของคุณ เพื่อให้คุณอุ่นใจได้ในกรณีที่เกิดความเสียหายทางกายภาพ หรือการสูญหายที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
• กรุณาระบุมูลค่าของชิปเมนต์ที่คุณต้องการเพิ่มการป้องกันมูลค่าสินค้า เพื่อความคุ้มครอง 100% โปรดกรอกจำนวนเงินให้เท่ากับมูลค่าที่สำแดงทั้งหมด

คลิกที่ 'ค่าใช้จ่ายอื่นๆ/เพิ่มค่าใช้จ่าย' และเมนูแบบดรอปดาวน์จะปรากฏขึ้นเพื่อให้คุณระบุประเภทของค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง สิ่งสำคัญคือต้องแจ้งค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมทั้งหมดที่ประกอบเป็นมูลค่ารวมของชิปเมนต์ของคุณ เนื่องจากจะเป็นตัวกำหนดว่าสินค้าของคุณสามารถผ่านกระบวนการศุลกากรได้รวดเร็วเพียงใด ซึ่งส่วนนี้เป็นทางเลือก

ทางเลือก: มีประเภทสินค้าที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แสดงเป็นเมนูแบบดรอปดาวน์ เมื่อคุณป้อนคำอธิบายโดยย่อเกี่ยวกับสินค้าของคุณ เลือกรายการที่คล้ายกับรายการของคุณมากที่สุด จากนั้นระบบจะกำหนดรหัสสินค้าให้กับรายการนั้น

ทางเลือก: กรุณาระบุอากรและภาษีที่คำนวณไว้ล่วงหน้าในใบกำกับสินค้า (หากผู้รับชำระเป็นส่วนหนึ่งของราคาสินค้าที่จัดส่ง)

ทางเลือก: คุณอาจรวมข้อมูลอ้างอิงสำหรับชิปเมนต์ของคุณในช่องด้านล่าง คลิกที่เครื่องหมาย [ + ] เพื่อเพิ่มข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติม หากมี คุณสามารถเพิ่มข้อมูลอ้างอิงได้สูงสุด 50 รายการต่อชิปเมนต์ โดยข้อมูลอ้างอิงรายการแรกเท่านั้นที่จะพิมพ์ลงบนใบนำส่งสินค้า (waybill)

สิ่งนี้จำเป็นสำหรับชิปเมนต์ที่เป็นพัสดุเท่านั้น (ไม่ใช่ชิปเมนต์ที่เป็นเอกสาร)

Invoice ของคุณใช้ในการเคลียร์ศุลกากร ดังนั้นจึงต้องถูกต้อง และสอดคล้องกับรายการของชิปเมนต์ และใบนำส่งสินค้า (AWB) ของคุณ

คุณมีตัวเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง: -

● สร้าง Invoice

-  หากคุณไม่มี Invoice ของคุณเอง ระบบจะสร้าง Invoice นี้โดยใช้เทมเพลตของ DHL
- ช่องหมายเลข Invoice จำเป็นสำหรับการส่งออกจากประเทศไทย โปรดกรอกหมายเลข Invoice ในรูปแบบใดก็ได้ (เช่น: INV_DDMMYY)

● ใช้ Invoice ของฉัน

-  กรุณาระบุหมายเลข Invoice ของคุณสำหรับชิปเมนต์นี้

หากมีคู่สัญญาทางการค้าอื่นเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับชิปเมนต์นี้ คุณสามารถสำแดงข้อมูลของพวกเขาได้โดยคลิกที่ 'เพิ่มข้อมูลคู่สัญญาทางการค้า'

กล่องข้อความจะเปิดขึ้น เพื่อให้คุณกรอกข้อมูลเกี่ยวกับคู่สัญญาทางการค้าเพิ่มเติม คุณสามารถนำเข้ารายละเอียดการติดต่อที่มีอยู่ได้โดยตรงจากสมุดที่อยู่ของคุณ หรือป้อนรายละเอียดด้วยตนเอง คุณสามารถเพิ่มคู่สัญญาทางการค้าต่างๆต่อกันได้สำหรับหนึ่งชิปเมนต์

ชิปเมนต์ที่ส่งไปยังสหภาพยุโรป และปลายทางอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง: ในช่องรหัสภาษีของชิปเมนต์ คุณจะต้องกรอกหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) ขึ้นอยู่กับประเทศปลายทางของชิปเมนต์ที่ต้องเสียภาษีของคุณ ตัวอย่างเช่น กรอกหมายเลข IOSS ของคุณสำหรับชิปเมนต์ที่ต้องเสียภาษีนำเข้าไปยังสหภาพยุโรป หากคุณได้ชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ไว้ล่วงหน้าแล้ว

i. เอกสาร: ประเภทบรรจุภัณฑ์ทั่วไปคือ 'Express Envelope' หรือ 'Standard Flyer'
ii.พัสดุ: หากคุณใช้กล่องของคุณเอง ให้เลือก 'My Own Package' ที่ด้านบนของรายการ
iii.กรอกจำนวน (ต่อกล่อง/บรรจุภัณฑ์) และน้ำหนักของแต่ละกล่อง
iv.หากคุณมีบรรจุภัณฑ์มากกว่าหนึ่งชิ้นที่มีน้ำหนัก/ขนาดต่างกัน ให้คลิกที่ [ เพิ่มบรรจุภัณฑ์อื่นๆ ]

ค่าเริ่มต้น บัญชี DHL ที่ลงทะเบียนแล้วของคุณจะปรากฎสำหรับค่าขนส่ง ส่วนค่าอากรและภาษีจะอยู่ภายใต้ "ผู้รับจ่าย" คุณสามารถลงทะเบียนในโปรไฟล์ได้มากกว่าหนึ่งบัญชี

หากคุณต้องการรับผิดชอบอากร และภาษี โปรดเลือกบัญชีของคุณ หรือกรอกหมายเลขบัญชีบุคคลที่สาม ที่จะรับผิดชอบค่าอากรและภาษี โดยค่าอากรและภาษีจะถูกกำหนดโดยหน่วยงานศุลกากรปลายทาง และจะมีค่าบริการเพิ่มเติมต่อชิปเมนต์ 690 บาทหรือ 2% ของมูลค่าภาษีอากร ภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าธรรมเนียมต่างๆ สำหรับบริการชำระค่าภาษี (Duty Tax Paid - DTP)

สำหรับค่าขนส่งที่ชำระโดยผู้รับ หรือบุคคลที่สาม กรุณายกเลิกการทำเครื่องหมายในช่อง และเลือก ‘Alternate DHL Account Number’ เพื่อกรอกหมายเลขบัญชี DHL ของผู้ชำระเงิน หมายเลขบัญชีผู้ส่งจะเป็นหมายเลขบัญชี DHL ที่คุณลงทะเบียนไว้

เลือกวันที่จัดส่งของคุณ (สีเหลือง) และวันที่จัดส่งโดยประมาณจะแสดงอยู่ด้านล่าง วันที่และเวลาจัดส่งโดยประมาณจะขึ้นอยู่กับพิธีการศุลกากรสำหรับการจัดส่งพัสดุ

การเลือกผลิตภัณฑ์จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปลายทาง และขีดจำกัดที่คุณกรอก ตัวเลือกการจัดส่งปกติอยู่ภายใต้ 'Express Worldwide' หากเลือกบริการแบบกำหนดเวลาจัดส่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ราคาที่แสดงเป็นการประมาณการขึ้นอยู่กับปลายทาง น้ำหนักสุทธิหรือน้ำหนักปริมาตรที่สูงกว่า มูลค่าที่สำแดงที่กรอกข้อมูล และบริการที่เลือกไว้ในส่วนรายละเอียดของชิปเมนต์ด้านบน

• คลิก "รายละเอียด" ที่ด้านล่างของราคาเพื่อแสดงค่าธรรมเนียมแยกย่อย หากคุณได้เลือกค่าธรรมเนียมการขนส่งภายใต้บัญชีอื่น จะไม่แสดงราคา
• คลิก 'เลือก' เพื่อไปยังหน้าถัดไป

ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถเลือกบริการที่ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุดเมื่อใช้บริการขนส่งด่วนของเราทั่วโลก

● โปรดทราบว่าการเลือกบริการเพิ่มเติมอื่นๆ จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปลายทาง

● อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

● เข้าไปที่เว็บไซต์ DHL สำหรับข้อมูลอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับค่าบริการต่างๆ: https://mydhl.express.dhl/th/th/ship/optional-services.html

คุณสามารถนัดรับสินค้าโดยเจ้าหน้าที่คูเรียร์ของเรา หรือนำส่งพัสดุได้ที่จุดบริการ DHL Express ที่ใกล้ที่สุด

โปรดทราบว่า DHL อาจไม่สามารถดำเนินการตามเวลารับที่ต้องการได้โดยเฉพาะ เนื่องจากเจ้าหน้าที่คูเรียร์จะเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางที่วางแผนไว้ในพื้นที่รับผิดชอบของเขา

A. การรับสินค้าส่งออก – จาก/ภายในประเทศไทย

●  คลิก 'ใช่ - แจ้งรับงาน'

- คลิก 'ไม่' หากคุณมีกำหนดการรับสินค้าอยู่แล้ว
- คลิก 'นำส่งชิปเมนต์ที่ DHL Service Point' หากคุณจะนำส่งชิปเมนต์ด้วยตนเอง

●  ตรวจสอบแถบเลื่อนวันที่และเวลารับสินค้า

- เวลาล่าสุดคือเวลาปิดรับการจองในพื้นที่ของคุณ

●  ตรวจสอบที่อยู่ในการรับสินค้าของคุณ

- หากอยู่ในตำแหน่งอื่น โปรดคลิก 'แก้ไข' ด้านล่างที่อยู่ที่ต้องการแก้ไข
- คลิก 'บันทึก' ด้านล่างที่อยู่เมื่อยืนยันแล้ว
- ที่อยู่ในการรับสินค้าจะไม่ถูกพิมพ์ลงบนสำเนาใบนำส่งสินค้า

●  เลือกสถานที่รับ และกรอกคำแนะนำในการรับสินค้าสำหรับเจ้าหน้าที่คูเรียร์ (ถ้ามี)

●  คลิก 'ถัดไป'  เมื่อยืนยันแล้ว

B. การรับสินค้านำเข้า – จากประเทศ/เขตพื้นที่อื่น

● คลิก 'ฉันจะนำเสนอวันที่และเวลารับสินค้า'  หากคุณจะจัดเตรียมการรับสินค้าในนามของผู้ส่ง

    -กรุณาส่งอีเมลยืนยันการรับสินค้าไปยังผู้ส่ง โดยคลิกที่ 'ส่งเอกสาร' หลังจากเตรียมชิปเมนต์เสร็จแล้ว

● คุณสามารถเลือกให้ผู้ส่งจัดเตรียมการนัดรับสินค้าหากชิปเมนต์ยังไม่พร้อม

● ค่าเริ่มต้นของที่อยู่ในการรับสินค้าคือที่อยู่เดียวกับผู้ส่ง

● หากนัดรับสินค้าจากตำแหน่งอื่น โปรดคลิก 'แก้ไข' ด้านล่าง และคลิก 'บันทึก' เมื่อแก้ไขแล้ว

● คลิก 'ถัดไป'  เมื่อยืนยันแล้ว

โดยทั่วไปมีไว้สำหรับการส่งคืนชิปเมนต์ (2 ทาง)

หากคุณส่งชิปเมนต์ทางเดียวเท่านั้น โปรดคลิก 'ไม่' เพื่อดำเนินการต่อ

สรุปค่าจัดส่ง คือค่าบริการแยกย่อยทั้งหมดโดยประมาณสำหรับการจัดส่งชิปเมนต์ของคุณ

-   จำนวนเงินจะแสดงเฉพาะค่าขนส่งที่เรียกเก็บจากบัญชีของผู้ส่งเท่านั้น

• หากคุณต้องการแก้ไขรายละเอียดใดๆ ให้คลิก 'แก้ไข' ในช่องด้านบน

• เมื่อรายละเอียดได้รับการยืนยันแล้ว คลิก 'Accept and Continue' เพื่อดำเนินการต่อ

-  หากคุณต้องการแก้ไขรายละเอียดใดๆ หลังจากการยืนยัน กรุณาสร้างใบนำส่งสินค้าใหม่

● หากคุณเลือกใช้บริการใบกำกับภาษีศุลกากรดิจิทัล โปรดคลิก ' Submit' สำหรับไฟล์ที่จะอัปโหลด