การจัดส่งข้ามพรมแดนอาจดูซับซ้อน และเอกสารทางศุลกากรที่ไม่ถูกต้อง เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของความล่าช้าในการขนส่งข้ามพรมแดนของธุรกิจ SMEs

เพื่อช่วยให้คุณผ่านพิธีการด้านศุลกากรที่ซับซ้อนได้อย่างราบรื่น และขนส่งระหว่างประเทศได้รวดเร็วยิ่งขึ้น DHL Express ได้พัฒนา My Global Trade Services (MyGTS) ซึ่งเป็นพอร์ทัลแบบครบวงจรที่ใช้งานง่าย

คุณสามารถเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีธุรกิจ DHL Express ที่มีอยู่ หรือลงทะเบียนบัญชี MyGTS ใหม่เพื่อเข้าถึง:

เริ่มต้นใช้งาน MyGTS


1. ค้นหาพิกัดศุลกากร (HS code) สำหรับสินค้าของคุณ

ไม่มีการคาดเดาอีกต่อไป MyGTS ใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อจัดหมวดหมู่ที่ถูกต้องสำหรับการส่งชิปเมนต์ของคุณทุกครั้ง ทำให้พิธีการศุลกากรรวดเร็วยิ่งขึ้น ค้นหาพิกัดศุลกากร (HS code) โดยใช้คีย์เวิร์ด หรือโค้ดไดเรกทอรี


2. ค้นหาค่าธรรมเนียมปลายทาง

คำนวณต้นทุนรวมของศุลกากร และการค้าเพื่อการตัดสินใจด้านราคาที่ดีขึ้น

  • เลือก “Exporting country/territory” และ “Importing country/territory”
  • กรอก "Export tariff code" และ "Import tariff code"

    หากคุณไม่มีพิกัดภาษีการส่งออก หรือนำเข้า คุณสามารถใช้เครื่องมือ "Find my product’s tariff codes" เพื่อค้นหาพิกัดภาษีสินค้าของคุณ

    คุณยังจะได้รับแจ้งให้ระบุลักษณะสินค้าเพิ่มเติม และหน่วยวัด (Unit of Measurement - UOM) สำหรับสินค้าของคุณ หากสิ่งเหล่านี้จำเป็นสำหรับการคำนวณอากรและภาษี

  • เลือกประเทศ/เขตพื้นที่สำหรับ "สินค้านี้ผลิตที่ไหน"
  • คลิกที่ “Next: Add additional details” เพื่อไปยังขั้นตอนต่อไป

  • เลือก “Reason for export”
  • เลือกว่าผู้ส่งและผู้รับเป็น "Business" หรือ "Private individual"
  • กรอก "Product price per unit" และ "total number of units"
  • เปลี่ยน “Currency” เป็นสกุลเงินที่คุณต้องการหากจำเป็น
  • ยืนยัน "Total product value" ของคุณ
  • คลิกที่ “Next: Add related costs” เพื่อไปยังขั้นตอนต่อไป

ในขั้นตอนนี้ คุณจะถูกขอให้ระบุค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับชิปเมนต์ของคุณ เช่น ค่าขนส่ง และค่าประกันภัย

  • เลือก "Manually" หากคุณต้องการเพิ่มค่าขนส่ง ค่าประกัน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วยตนเอง
  • เลือก “Using DHL Express rates” หากคุณต้องการใช้อัตราของ DHL Express เพื่อคำนวณ landed cost ของคุณ

หากคุณเลือกที่จะเพิ่มค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยใช้อัตราของ DHL Express:

  • เลือกหากคุณมีบัญชี DHL Express

หากใช่ ให้กรอก หรือเลือกหมายเลขบัญชี DHL Express ของคุณ

  • เลือกประเภทบรรจุภัณฑ์ ปริมาณ และน้ำหนักพัสดุ
  • เพิ่มอีกพัสดุหากต้องการ
  • เลือกว่าคุณต้องการรวมความคุ้มครองชิปเมนต์หรือไม่
  • ระบุว่าผู้ส่ง หรือผู้รับ จะต้องชำระอากร และภาษี
  • กรอกค่าใช้จ่ายอื่นๆ ถ้ามี เพื่อรวมเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับชิปเมนต์นี้
  • สุดท้าย คลิก "Get my plan" เพื่อสร้างแผนการจัดส่งชิปเมนต์ล่วงหน้าของคุณ

แผนการจัดส่งชิปเมนต์ล่วงหน้า จะถูกสร้างขึ้นตามรายละเอียดที่คุณกรอกในหน้าก่อนหน้านี้ คลิกที่ 'Landed Cost estimate' เพื่อดูอากร ภาษี และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องสำหรับชิปเมนต์ของคุณ


3. ตรวจสอบข้อกำหนดด้านศุลกากรสำหรับการนำเข้าและส่งออก

ในส่วนของการวางแผนการจัดส่งชิปเมนต์ล่วงหน้า คุณยังสามารถตรวจสอบข้อกำหนดด้านศุลกากรของประเทศที่นำเข้า และส่งออก รวมถึงเอกสารด้านศุลกากรที่จำเป็นได้อีกด้วย

คลิกที่ 'Customs Requirements' ที่แถวบนสุดเพื่อดูรายการข้อกำหนดการส่งออกและนำเข้าทั้งหมดสำหรับชิปเมนต์ของคุณ

คลิกที่ 'Customs and Trade Documentation' ที่แถวบนสุด เพื่อตรวจสอบ และรับเอกสารที่จำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าการผ่านพิธีการศุลกากรสำหรับชิปเมนต์ของคุณจะเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งจะรวมถึงใบอนุญาต การอนุญาต ใบรับรองที่จำเป็นสำหรับการเคลียร์ศุลกากร