#คําแนะนําเกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซ

ส่งของไปจีน เริ่มต้นง่ายๆ จากคู่มือนี้

8 นาทีอ่าน
facebook sharing button
twitter sharing button
linkedin sharing button
Smart Share Buttons Icon Share

ผู้ขายไทยยังคงมองว่าการขยายธุรกิจไปตลาดเมืองจีนเป็นโอกาสเติบโตทางธุรกิจที่สําคัญ จากข้อมูล ของ CEIC ระบุว่า มูลค่าการส่งออกไปจีน อยู่ที่ 3,711 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน 2566 ทําให้จีนเป็นหนึ่งในคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทยในขณะนี้  เศรษฐกิจจีนที่แข็งแกร่ง กําลังซื้อที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคชาวจีน และความต้องการสินค้าไทยที่เพิ่มขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยสําคัญที่ขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศให้คึกคักและสร้างโอกาสทำเงินให้ผู้ขายจากไทยในในปัจจุบัน

ความสําคัญของจีนในฐานะตลาดสําหรับผู้ขายไทยได้ขยายผลเพิ่มจากข้อตกลงทางการค้าที่เอื้ออํานวย เช่น เขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) และข้อตกลงการค้าเสรีล่าสุดที่เปรียบได้กับ FTA ฉบับมินิ  โดย ACFTA มีเป้าหมายที่จะยกเลิกภาษีนําเข้า 90% ของสินค้าที่ซื้อขายระหว่างคู่สัญญาที่ลงนาม ทําให้กระบวนการส่งออกสินค้าจากไทยไปยังจีนมีความน่าสนใจและประหยัดมากขึ้น ประกอบกับความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของจีนในการเปิดตลาด ได้สร้างโอกาสที่น่าสนใจสําหรับผู้ขายไทยในการขยายการดําเนินงาน

ส่วน FTA ฉบับมินินั้นเป็นข้อตกลงทวิภาคีระหว่างไทยกับเมืองหรือมณฑลที่กำหนดในประเทศจีน ช่วยเสริมศักยภาพการค้าให้มากขึ้น หลังจากการลงนาม FTA ฉบับมินิระหว่างไทยและมณฑลไห่หนานของจีนในเดือนสิงหาคม 2022 การค้าทวิภาคีระหว่างไทยและไห่หนานเพิ่มขึ้นกว่า 90% คิดมูลค่าเป็น 520 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งบ่งชี้ว่าข้อตกลงดังกล่าวสามารถช่วยให้ผู้ขายไทยเข้าถึงผู้ซื้อที่มีศักยภาพในจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อ่านต่อเพื่อทําความเข้าใจแง่มุมที่สําคัญของภาพการนําเข้าจากไทยไปจีน และวิธีจัดการความซับซ้อนด้านศุลกากรในการค้าระหว่างประเทศนี้

ตลาดจีน โอกาสทองสําหรับผู้ขายไทย

ประเทศจีนมีประชากรจำนวนมหาศาลและมีชนชั้นกลางที่กําลังเติบโตเป็นตลาดที่หลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ สําหรับผู้ขายไทยที่ต้องการขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศจีน เตรียมตัวเข้าถึงโอกาสธุรกิจในตลาดขนาดใหญ่ที่สนใจซื้อขายสินค้าหลากหลายประเภทจากไทย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและสินค้าที่ผลิตด้วยคุณภาพสูง

นอกจากนี้ อีคอมเมิร์ซในจีนกําลังเติบโตอย่างโดดเด่น นี่เป็นการเปิดช่องทางสําหรับผู้ขายจากไทยที่ต้องการขยายตลาดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการตั้งหน้าร้านจริงในประเทศใหม่ ในความเป็นจริงแล้ว ประชากรส่วนใหญ่ของจีนซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจําโดยมีจำนวนผู้ใช้อีคอมเมิร์ซประมาณ 93.38% จากข้อมูลของ Statista สาเหตุหลักมาจากอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่สูงของประเทศ และจํานวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นและทําให้จีนกลายเป็นแหล่งค้าปลีกออนไลน์ขนาดใหญ่

การเติบโตของการซื้อขายออนไลน์นี้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของจีนที่จะยอมรับแนวโน้มการช้อปปิ้งดิจิทัล ทําให้จีนเป็นตลาดที่น่าสนใจสําหรับผู้ค้าปลีกออนไลน์ทั่วโลก

ทําความเข้าใจผู้ซื้อชาวจีน

ผู้บริโภคชาวจีนกําลังกลายเป็นหนึ่งในกําลังซื้อที่ทรงพลังที่สุดในโลกอย่างรวดเร็ว พวกเขามีรสนิยมที่ชาญฉลาด ใส่ใจในคุณภาพ และชื่นชอบเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ผู้บริโภคชาวจีนมีบทบาทสําคัญในการกําหนดความเคลื่อนไหวของการค้าข้ามพรมแดน เนื่องจากผู้บริโภคชาวจีนมักเชื่อมโยงสินค้าต่างประเทศ กับศักดิ์ศรีและคุณภาพสูงกว่าผู้ขายชาวไทยจึงมีโอกาสพิเศษในการเข้าถึงกลุ่มตลาดนี้และเพิ่มยอดขายออนไลน์

จากข้อมูลของ Trading Economics ในปี 2022 สินค้านําเข้าอันดับต้นๆ ของจีนจากไทย ได้แก่ อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักร ผลไม้ ยางพาราและพลาสติก สินค้าเหล่านี้บ่งบอกถึงความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคชาวจีนสนใจ ครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่สิ่งจําเป็นในชีวิตประจําวันไปจนถึงอุปกรณ์ไฮเทค

อย่างไรก็ตาม สิ่งสําคัญคือต้องตระหนักถึงแนวโน้มการเติบโตที่บ่งบอกถึงโอกาสใหม่ๆ สําหรับธุรกิจไทยที่ต้องการเริ่มส่งออกไปยังประเทศจีน อย่างในตอนนี้ ทุเรียนและมะพร้าวอ่อนจากประเทศไทยกำลังเป็นที่ถูกใจของผู้บริโภคในจีน พวกเขาชอบรสชาติของผลไม้แปลกใหม่จากไทย นับเป็นสัญญาณของการเปิดรับประสบการณ์อาหารแบบใหม่ๆ ของคนจีน เป็นโอกาสที่น่าสนใจสําหรับผู้ส่งออกผลไม้ไทย ซึ่งควรปรับตัวด้านการนำเสนอผลิตผลและผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในจีน

นอกเหนือจากผลไม้แล้ว ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ยังได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง เช่น นมและผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ เช่น ตีนไก่ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งตอกย้ำเทรนด์เกิดใหม่และดีมานต์การนําเข้าอาหารสู่จีนมากขึ้น เทรนด์นี้ได้รับแรงหนุนจากชนชั้นกลางที่เติบโตอย่างรวดเร็วในจีนที่มีกำลังซื้อและยินดีจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อนำเข้าสินค้าคุณภาพสูงจากต่างประเทศ 

อ่านเพิ่มเติม: สิ่งสําคัญที่ควรทราบเมื่อส่งอาหารไปต่างประเทศ

นอกจากนี้ ประเทศจีนยังนำเข้าไม้จากไทยจำนวนมาก ตลาดนี้ยังคงแข็งแกร่งเนื่องได้รับแรงหนุนจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่กําลังขยายตัวของประเทศและความต้องการไม้คุณภาพสูง สิ่งนี้ตอกย้ำศักยภาพการเติบโตอีกด้านของธุรกิจไทยในภาคป่าไม้

เทรนด์การนําเข้าเหล่านี้ไม่เพียงแต่เน้นย้ำถึงความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคจีนสนใจ แต่ยังแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคจีนมีรสนิยมและความชื่นชอบที่เปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย ธุรกิจควรให้ความสำคัญของความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง และเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อเลือกหรือได้ทดลองสิ่งใหม่ๆ ความเคลื่อนไหวของผู้บริโภคในจีนและความชื่นชอบสินค้าไทยทําให้ผู้ขายไทยมีโอกาสเข้าถึงตลาดอีคอมเมิร์ซที่เฟื่องฟูของจีน

การส่งของไปจีนและสิ่งที่ผู้ขายไทยต้องรู้

1. De minimis ในการส่งของไปจีน

De minimis คือ มูลค่าขั้นต่ำที่สามารถนำสินค้าเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องเสียภาษีอากรนำเข้า ซึ่งเกณฑ์ขั้นต่ำนี้แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ การทําความเข้าใจ De minimis เป็นสิ่งสําคัญสําหรับธุรกิจที่ต้องการส่งสินค้าไปขายในต่างประเทศ เพื่อให้ทราบต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าไปยังประเทศใดประเทศหนึ่ง

สำหรับการส่งของไปจีน มูลค่าขั้นต่ำหรือ De minimis ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับการนำเข้าไปในประเทศอื่นๆ ปัจจุบัน De minimis ของจีนอยู่ที่ 50 หยวน (ประมาณ 7 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 244.09 บาท) ซึ่งหมายความว่าการจัดส่งใดๆ ที่มีมูลค่าต่ำกว่าเกณฑ์นี้สามารถนําเข้าไปยังประเทศจีนได้โดยปลอดภาษี (ไม่ต้องเสียภาษี)

อย่างไรก็ตาม การส่งของไปจีนซึ่งของมีมูลค่าสูงกว่าเกณฑ์นี้จะต้องเสียภาษีศุลกากรและภาษีนําเข้า ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสําคัญสําหรับผู้ขายไทยที่จะต้องคํานึงถึงต้นทุนเหล่านี้เมื่อกําหนดราคาสินค้าขายในจีน นอกจากนี้ พึงระวังเสมอว่ากฎ ระเบียบและข้อกำหนดด้านศุลกากรสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ควรติดตามข้อมูลอัพเดทล่าสุดจากศุลกากรอยู่เสมอ

2. สิ่งของต้องห้ามและต้องกำกัดในการนําเข้าไปในจีน

จีนมีกฎเฉพาะเกี่ยวกับสิ่งของต้องห้าม (Prohibited items) และต้องกำกัด (Restricted items) ที่ไม่สามารถนำเข้าไปในประเทศจีนได้ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารบางอย่าง สารและวัสดุบางประเภท สิ่งสําคัญคือต้องแน่ใจว่า ผลิตภัณฑ์ที่คุณส่งจากไทยไปจีนไม่อยู่ในรายการนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากใดๆ กับพิธีการทางศุลกากร จากข้อมูลหน่วยงานศุลกากรของจีน รายการที่ระบุไว้ในแคตตาล็อกสินค้าห้ามนําเข้าไปในจีน ได้แก่

  • กระดูกเสือและเขาแรด
  • ภาชนะเหล็กและเหล็กสําหรับก๊าซอัดหรือก๊าซเหลว
  • อาวุธ กระสุนปืน และวัตถุระเบิด
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าสําหรับผู้บริโภคบางประเภท

สําหรับผลิตภัณฑ์บางอย่าง เช่น ผลไม้สด อาหารแช่แข็ง หรืออาหารสดที่ต้องเผชิญกับกฎ ระเบียบศุลกากรที่เข้มงวด แนะนำให้เจ้าของธุรกิจพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น อาหารแปรรูป อาหารแห้ง หรืออาหารแช่แข็ง เพื่อตอบรับเทรนด์สินค้านำเข้าของจีนให้ได้มากที่สุด ใช้ประโยชน์จากแนวโน้มการนําเข้าของจีน

3. ภาษีการขายของจีนและผลต่อยอดขายระหว่างประเทศ

การทําความเข้าใจความซับซ้อนของระบบภาษีการขายของจีนไม่เพียงแต่มีความสําคัญ แต่เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสําหรับธุรกิจและบุคคลที่ต้องการส่งออกไปจีน ประเทศจีนดําเนินการในระบบที่เรียกว่า ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งใช้กับสินค้าและบริการเกือบทั้งหมดที่นําเข้า ผลิต หรือขายในประเทศจีน

อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ทั่วไปคือ 13% แต่อัตราที่ลดลง 9% ใช้กับสินค้าบางประเภท เช่น สินค้าเกษตรและสาธารณูปโภค สําหรับสินค้านําเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่มจะคํานวณจากมูลค่าศุลกากร บวกกับอากรที่ชําระ สินค้าบางประเภทอาจมีการลดภาษีหรือค่าธรรมเนียมเนื่องจากข้อตกลงการค้าเสรีที่ลงนามระหว่างไทย (หรืออาเซียน) และจีน สิ่งสําคัญคือต้องคํานึงถึงภาษีเหล่านี้ในการคิดต้นทุนผลิตภัณฑ์ของคุณเมื่อกําหนดราคาสําหรับขายในตลาดจีน

การมีความรู้เกี่ยวกับระบบนี้ช่วยให้คุณสามารถกําหนดราคาผลิตภัณฑ์ของคุณได้เหมาะสม สามารถแข่งขันได้และโปร่งใส เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดมาขัดขวางผลกําไรหรือความพึงพอใจของลูกค้า พึงระลึกไว้เสมอว่า แม้ว่าในตอนแรก ภาษีอาจดูเหมือนเป็นภาระ แต่ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง เรื่องภาษีเหล่านี้จะเป็นเรื่องที่จัดการได้ และต้องเจอในการทําธุรกิจในต่างประเทศ

4. การปกป้องมูลค่าของสินค้า (Shipment Value Protection)

เมื่อพูดถึงการส่งของไปจีน การปกป้องมูลค่าสินค้าของคุณระหว่างการขนส่งเป็นสิ่งสําคัญยิ่ง นี่คือที่มาของการปกป้องชิปเมนต์ของคุณเพื่อคุ้มครองทางการเงินจากการสูญเสียทางกายภาพหรือความเสียหายต่อสินค้าของคุณที่เกิดจากความเสี่ยงที่ครอบคลุม ความคุ้มครองที่ครอบคลุมนี้มักจะรวมถึงการป้องกันตั้งแต่จุดรับสินค้าจนถึงการจัดส่ง คุณจึงไม่ต้องกังวลกับการจัดส่งสินค้าที่มีมูลค่าหรือมีความเปราะบางมาก

ส่งของไปจีนกับ DHL Express ปลอดภัย ไว้ใจได้

แล้วคุณจะเริ่มเข้าสู่เส้นทางการค้า ตลาดอีคอมเมิร์ซได้อย่างไร เลือกพันธมิตรโลจิสติกส์ที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจระหว่างประเทศของคุณได้ ให้การส่งของไปจีนให้ลูกค้าคนสำคัญเป็นไปได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว ด้วยบริการจาก DHL Express มั่นใจได้ในเครือข่ายการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั่วโลกโดยเครื่องบินขนส่งสินค้าของ DHL เอง พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎ ระเบียบและข้อกำหนดศุลกากร 

ประสบการณ์หลายทศวรรษของ DHL Express ในการขนส่งระหว่างประเทศและความเชี่ยวชาญด้านกฎ ระเบียบ ข้อกำหนดศุลกากรทําให้มั่นใจได้ว่าการส่งของไปจีนจะตรงเวลา เชื่อถือได้และเป็นไปตามข้อกำหนด เราจะทำให้การส่งของไปต่างประเทศง่ายขึ้นกว่าเดิม!

นอกเหนือจากส่งของด่วนระหว่างประเทศแบบมาตรฐาน ที่ใช้เวลาเพียง 1 วัน ในการส่งจากไทยไปจีน DHL Express ยังมีโซลูชันการจัดส่งและการติดตามพัสดุที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่หลากหลาย เราสามารถส่งของไปจีนอย่างเร่งด่วนและกำหนดเวลาส่งถึงมือผู้รับปลายทางได้ภายในเวลา 9.00 น. 10.30 น. 12.00 น. หรือภายในวัน ตัวเลือกนี้จะช่วยให้คุณควบคุมช่วงเวลาจัดส่งพัสดุไปที่ประเทศจีนได้แม่นยำขึ้น และนำหน้าคู่แข่งได้ ไม่ว่าคุณกําลังมองหาบริการส่งของไปจีนที่เร็วที่สุดหรือส่งของไปจีนราคาถูกที่สุด ส่งของไปจีนปริมาณมาก ส่งของไปจีนขนาดใหญ่ ปรึกษาบริการจาก DHL Express ได้ตลอดเวลา

เลือกพันธมิตรที่สามารถนําเสนอความน่าเชื่อถือ ความเร็ว และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งด้านการขนส่งระหว่างประเทศ เลือก DHL Express ลงทะเบียนบัญชีธุรกิจกับเรา และเดินหน้าพาธุรกิจคุณบุกตลาดจีนไปด้วยกัน