#คําแนะนําเกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซ

เตรียมอีคอมเมิร์ซให้พร้อมรับ Black Friday แถมวิธีเช็กราคาส่งของไปต่างประเทศกับ DHL Express

facebook sharing button
twitter sharing button
linkedin sharing button
Smart Share Buttons Icon Share

ในปี 2020 ที่ผ่านมา Black Friday คือวันที่ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมหาศาล แม้ว่าสถานการณ์โควิดจะหนักหนาสาหัส พาเอาร้านค้าปิดตัวไปมาก แต่ร้านค้าอีคอมเมิร์ซกลับได้รับอานิสงส์จากการดิสรัปต์นี้ ทำให้นักช้อปออนไลน์ออกมาจับจ่ายในวันนี้ทำเงินสะพัดกว่า 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โตขึ้นกว่าปีที่แล้ว 21% เรียกได้ว่าเป็นวันๆ หนึ่งที่มียอดขายอีคอมเมิร์ซทั่วโลกสูงที่สุดเลยทีเดียว

ทั่วโลกคาดว่า Black Friday ในปี 2021 จะเติบโตขึ้นมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า แม้ว่าสถิติวัน Black Friday ปีที่แล้วจะบอกว่านักช้อปทิ้งของในตะกร้าออนไลน์มากถึง 76.63% เพราะพวกเขาอาจจะไม่แฮปปี้กับประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ได้รับบนเว็บไซต์ เว็บอาจจะโหลดนานไป ค่าส่งแพงไป หรือไม่มีตัวเลือกการจัดส่งแบบเร่งด่วนอย่างที่นักช้อปต้องการ แต่ข่าวดีคือ สิ่งเหล่านี้แก้ไขปรับปรุงได้เสมอ DHL Express ขนส่งด่วนระหว่างประเทศ มีเคล็ดลับการเตรียมธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณให้พร้อมรับ Black Friday แถมด้วยทิปส์การเช็กราคาส่งของไปต่างประเทศกับ DHL Express มาดูกัน!

หน้าเว็บไซต์ต้องพร้อม

ท่องไว้ว่าคนทั่วโลกกำลังจะคลิกเข้ามาที่หน้าเว็บไซต์ของคุณเพื่อซื้อของที่ต้องการในวัน Black Friday เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเปรียบเสมือนหน้าบ้านที่ต้องจัดการให้เนี้ยบ น่าเข้ามาช้อป เว็บโหลดช้าหรือไม่ ใช้ง่ายหรือเปล่า แล้วมีปุ่มค้นหาเพื่อให้ลูกค้าของคุณหาของที่ต้องการได้ง่ายขึ้นหรือไม่ รูปถ่ายสินค้าโดดเด่นพอไหม คำอธิบายสินค้าชัดเจน ครบถ้วนแล้วหรือยัง check list เหล่านี้ต้องตรวจสอบให้ครบ

บอกให้รู้ว่าร้านฉันพร้อมแล้วกับ Black Friday

คุณตั้งใจจะจัดโปรโมชั่นวัน Black Friday อยู่ใช่ไหม เยี่ยมเลย! แต่อย่าลืมบอกให้ลูกค้ารู้ด้วยนะ ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย SMS หรืออีเมลให้เป็นประโยชน์ จากผลสำรวจบอกว่า ถ้าส่งอีเมลพร้อมระบุจำนวนส่วนลดลงไปในหัวเรื่อง จะช่วยปิดการขายได้ถึง 14.8% ดังนั้น ถ้าคุณจัดโปรโมชั่นดีๆ อยู่ อย่าลืมบอกส่วนลดปังๆ ให้ลูกค้าได้รู้ตั้งแต่หัวข้ออีเมลหรือบรรทัดแรก

ให้รางวัลกับลูกค้าขาประจำ

ลูกค้าใหม่ก็สำคัญ แต่ลูกค้าเก่าที่ภักดีกับแบรนด์ของคุณที่คุณจะทอดทิ้งไม่ได้ อย่าลืมมอบส่วนลด สิทธิประโยชน์พิเศษรับวัน Black Friday ให้กับลูกค้าเดิมของคุณเพื่อขอบคุณพวกเขา ปรับข้อความให้เป็น personal มากขึ้นให้จับใจ และแน่นอนเพื่อให้เขาจำคุณได้และกลับมาซื้อซ้ำ ส่วนลูกค้าใหม่ที่เข้ามาในเว็บไซต์ของคุณนั้น คุณสามารถเพิ่มแคมเปญบางอย่างเพื่อให้เขากด subscribe ติดตามหรือยังคงมีเราอยู่ใน mailing list และให้เราได้ส่งข่าวถึงพวกเขาได้ในอีกในอนาคต

อย่าลืมว่าลูกค้าส่วนใหญ่ช้อปจากมือถือ

มีผลสำรวจเกี่ยวกับวัน Black Friday ในปีที่แล้วว่า 7 ใน 10 ของนักช้อปออนไลน์ใช้สมาร์ทโฟนในการเข้าเว็บอีคอมเมิร์ซ ดังนั้น เว็บไซต์ของคุณต้องพร้อมแสดงผลบนหน้าจอมือถือด้วย แต่ไม่ต้องห่วง DHL Express มีคำแนะนำให้คุณจับกระแส M-Commerce ในตลาดโลก สร้างโอกาสธุรกิจบนหน้าจอเล็ก แต่ยอดขายระดับบิ๊กเบิ้ม ปรับปรุงเพื่อประสบการณ์ของลูกค้าตรงนี้ รับรองว่าร้านค้าอีคอมเมิร์ซจากไทยจะมียอดส่งของไปต่างประเทศได้เทียบเท่ากับแบรนด์ดังๆ แน่นอน

มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดตอน Checkout

รู้หรือไม่! ผลสำรวจบอกว่า ลูกค้า 91% จะออกจากเว็บไซต์เลย ถ้า check out แล้วพบว่าสินค้าของคุณไม่ได้ส่งฟรี หรือไม่มีส่งของไปต่างประเทศแบบด่วน ลองใช้กลยุทธ์ Free shipping ด้วยการนำค่าขนส่งรวมเข้าไปในค่าสินค้า ซึ่งจะช่วยการตัดสินใจของผู้ซื้อได้เร็วขึ้น ควรมีตัวเลือกการส่งของไปต่างประเทศแบบ Express และควรมีตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลายในหน้า Check out ด้วย

ส่งของไปต่างประเทศ จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

ทุกวันนี้ คาดว่า 50-60% ของประเทศทั่วโลกฉลองเทศกาล Black Friday ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม นั่นหมายถึง ลูกค้าของคุณก็มีอยู่ทั่วโลก ตลาดต่างประเทศย่อมกว้างใหญ่กว่าการขายแค่ภายในประเทศ ดังนั้น การส่งของไปต่างประเทศจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซคุณอีกต่อไป DHL Express คือผู้นำด้านการขับเคลื่อนการค้าโลกด้วยการขนส่งระหว่างประเทศ เราพร้อมให้สนับสนุนธุรกิจคุณให้เติบโตในระดับนานาชาติ ช่วยเหลือคุณด้านการจัดการศุลกากร เพื่อให้ลูกค้าได้รับของจากร้านของคุณได้อย่างรวดเร็วไม่มีสะดุด

ขายอีคอมเมิร์ซต้องเตรียมใจเรื่องการคืนของ

ลูกค้าอีคอมเมิร์ซกว่า 30% ทั่วโลกมักจะมีประสบการณ์คืนของหลังช้อปปิ้งบนอีคอมเมิร์ซ ไม่ว่าสินค้าของคุณจะดีแค่ไหนก็ตาม เตรียมตัวให้พร้อมด้วยการกำหนดนโยบายการคืนสินค้าที่ชัดเจนและระบุให้ชัดเจนบนเว็บไซต์ เพราะ 67% ของนักช้อปจะอ่านเงื่อนไขข้อนี้ก่อนจะตัดสินใจซื้อของบนเว็บไซต์

สุดท้ายนี้ เราอยากบอกว่า ถึงแม้ Black Friday จะเกิดขึ้นและผ่านไป แต่ความสนุกจะไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น Cyber Monday จะตามมาติดๆ แล้วต่อด้วยคริสต์มาสให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณพีคแบบไม่ต้องพัก นี่แค่เป็นจุดเริ่มต้นของการเตรียมธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้พร้อมรับมือกับมวลเหล่านักช้อปที่พร้อมใจกันจับจ่ายทั่วโลก  ขอให้คุณสนุกกับเทศกาลแห่งความสุขนี้ และขอให้ขายดิบขายดี ส่งของไปต่างประเทศกันทุกวัน!

แต่ถ้าต้องการความช่วยเหลือในการส่งของไปต่างประเทศแล้วล่ะก็ ให้ DHL Express ช่วยคุณเอง เราคือผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการส่งออกและนำเข้า ส่งของไปต่างประเทศแบบ door-to-door จะส่งของไปประเทศอะไร เราจัดให้ครอบคลุม 220 ประเทศทั่วโลก

วิธีเช็กราคาค่าบริการส่งของไปต่างประเทศเบื้องต้น

  1. เข้าไปที่เว็บไซต์ MyDHL+ https://mydhl.express.dhl/index/en.html
  2. กรอกรายละเอียดของประเทศต้นทาง และปลายทางของการจัดส่งสินค้า
  3. เลือกประเภทชิปเมนต์ที่จัดส่ง ว่าเป็นเอกสาร หรือพัสดุ
  4. ระบุขนาดของชิปเมนต์ จะปรากฎหน้าจอแสดงอัตราค่าบริการส่งของไปต่างประเทศผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ ใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ MyDHL+ , ติดต่อ Customer Service เพื่อนัดรับชิปเมนต์ หรือนำส่งชิปเมนต์ด้วยตัวเองที่จุดบริการ DHL Express ใกล้คุณ

ราคาที่แสดงเป็นเพียงราคาเบื้องต้นเท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าผ่าน Live Chat ที่ปุ่มมุมขวาล่าง วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-17.00 น. หรือโทร. 02-345-5000 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง