#จัดส่งกับDhl

การนำเข้าอาหาร เครื่องสำอาง ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และอุปกรณ์ทางการแพทย์ส่วนบุคคล จากต่างประเทศมายังประเทศไทย

facebook sharing button
twitter sharing button
linkedin sharing button
Smart Share Buttons Icon Share

กรุณาอ่านประกาศสำคัญ

·       การนำเข้าอาหาร เครื่องสำอาง ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และอุปกรณ์ทางการแพทย์ส่วนบุคคล ต้องมีใบอนุญาตในการนำเข้าและได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีระยะเวลาดำเนินการขั้นต่ำ 3 วัน ต้องมีหนังสือชี้แจงวัตถุประสงค์ในการนำเข้า เพื่อรับรองว่าสินค้านั้นมิได้นำเข้ามาเพื่อการค้า

·       เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ขั้นตอนการอนุมัติอาจใช้เวลาระหว่าง 3-5 วัน

·       ก่อนการผ่านพิธีการศุลกากร ผู้นำเข้าจะต้องลงทะเบียนกับกรมศุลกากรไทยและเสนอชื่อ DHL Express (Thailand) Ltd เพื่อเป็นตัวแทนออกของ 

สำหรับคนไทย

สามารถลงทะเบียนผู้มาติดต่อออนไลน์กับกรมศุลกากรได้สะดวกมากยิ่งขึ้นที่ https://www.customstraderportal.com พร้อมยืนยันตัวตนผ่านธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ตู้เอทีเอ็มและแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง

สำหรับชาวต่างชาติ

ต้องใช้หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตทำงานและประทับตราการผ่านเข้าประเทศล่าสุด  (ขั้นตอนการลงทะเบียนอาจใช้เวลาถึง 3-4 วัน)

·       หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อแผนก Customs Clearance ของดีเอชแอลที่เบอร์
02-135-0000 หรือ อีเมล EXPRESS-HUB-CONTACT_CENTRE@dhl.com

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจำกัดปริมาณสำหรับการนำเข้าเพื่อใช้ส่วนบุคคล มีดังนี้

·        อาหาร – อนุญาตเฉพาะในปริมาณที่เหมาะสม

·        เครื่องสำอาง - อนุญาต 6 ชิ้น

·        ยา - อนุญาตในปริมาณที่เหมาะสมและต้องมีใบสั่งยาของแพทย์ (จากแพทย์ไทย) เพื่อยืนยันว่าผู้ป่วยได้รับการตรวจและมีความจำเป็นต้องใช้ยาดังกล่าว

·        ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร - อนุญาตให้นำเข้าในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการบริโภค 1 เดือนเท่านั้น

·        อุปกรณ์ทางการแพทย์ – เช่น เครื่องนวด อุปกรณ์ใดๆที่สามารถวัดความดันโลหิตหรืออัตราการเต้นของหัวใจ อนุญาตให้นำเข้าเพื่อใช้ส่วนตัวได้ 1 ชิ้นและต้องมีใบรับรองแพทย์ (จากแพทย์ชาวไทย) เพื่อยืนยันว่าผู้ป่วยต้องการอุปกรณ์นี้เพื่อความเป็นอยู่ที่ดี

หมายเหตุ: ชุดตรวจ COVID และวัคซีนป้องกัน COVID-19 ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าในนามบุคคล

หากนำเข้ามาในปริมาณที่เกินข้อกำหนดข้างต้น จำเป็นต้องมีใบอนุญาตในการนำเข้า ชิปเมนต์ที่ไม่มีใบอนุญาตนำเข้า หรือไม่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือชิปเมนต์ที่อยู่ในคลังสินค้าของดีเอชแอลมากกว่า 30 วัน นับเป็นของตกค้างและอาจถูกนำไปทำลาย