#จัดส่งกับDhl

ส่งของไปต่างประเทศด้วยลอจิสติกส์ที่ยั่งยืนกับ DHL Express ในช่วงคริสต์มาส

facebook sharing button
twitter sharing button
linkedin sharing button
Smart Share Buttons Icon Share

คริสต์มาสและปีใหม่นี้ DHL Express แนะเคล็ดลับส่งของไปต่างประเทศด้วยลอจิสติกส์ที่ยั่งยืน

การมาถึงของคริสต์มาสหมายถึงกิจกรรมช้อปปิ้งออนไลน์จำนวนมหาศาล แต่นอกจากนั้นยังหมายถึงการที่ลูกค้าได้ราคาดีที่สุด และสำหรับนักช้อปชาวไทย นี่คือช่วงเวลาในการซื้อหาของขวัญให้กับเพื่อนหรือครอบครัวที่อยู่ต่างแดนด้วย แต่รู้รึเปล่าว่าประเด็นเรื่องความยั่งยืนเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคกำลังให้ความสำคัญ พวกเขาอยากได้สินค้าราคาดีจากโลกออนไลน์ แต่ในขณะเดียวกันก็อยากลดผลกระทบที่อาจมีต่อสิ่งแวดล้อมจากการสั่งซื้อของบนอีคอมเมิร์ซและจากการส่งของไปต่างประเทศด้วย

ผลสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า กว่า 1 ใน 3 หรือ 37% ของนักช้อปบอกว่า พวกเขาตัดสินใจซื้อสินค้าโดยดูจากนโยบายจริยธรรมและความยั่งยืนและของผู้ขาย 67% กล่าวว่าพวกเขาใส่ใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเวลาเลือกซื้อสินค้าเมื่อเทียบกับเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ผลลัพธ์ก็คือลูกค้าคาดหวังว่าแบรนด์ที่เขาจะซื้อสินค้านั้นจะทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยขจัดความรู้สึกผิดเล็กๆ นี้ออกไป

คริสต์มาสและปีใหม่คือฤดูกาลลดกระหน่ำที่จะมีลูกค้าใหม่แวะเวียนมาที่เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณมากที่สุด นี่คือช่วงเวลาเหมาะที่สุดที่คุณจะแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าแบรนด์ของคุณใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน นี่เป็นโอกาสดีที่คุณจะมัดใจลูกค้าและทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำอีกในปีหน้า และปีต่อๆ ไป เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืนและได้ใจลูกค้าไปพร้อมกัน

DHL Express ผู้นำด้านลอจิสติกส์ระดับโลกและผู้ช่วยมืออาชีพด้านการส่งของไปต่างประเทศ มาพร้อมกับความมุ่งมั่นในการส่งมอบบริการที่ยอดเยี่ยมตามโรดแมปสู่ความยั่งยืน ผ่านแนวทาง Environment Social และ Governance หรือ ESG เรามีทิปดีๆ เกี่ยวกับการสร้างลอจิสติกส์ที่ยั่งยืนมาฝาก ไม่ว่าแบรนด์ของคุณจะเล็กหรือใหญ่ หรือคุณแค่จะส่งของไปต่างประเทศในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ให้เพื่อนหรือครอบครัวที่อยู่ต่างประเทศ คุณก็มีส่วนร่วมในการสร้างลอจิสติกส์ที่ยั่งยืนได้ ไปอ่านกันได้เลย!

เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ก่อนจะเข้าเรื่องลอจิสติกส์ เรามาเรียนรู้เรื่องบรรจุภัณฑ์กันหน่อย ผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าอีคอมเมิร์ซกว่าครึ่ง หรือ 52% ในประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า พวกเขาอยากให้แบรนด์สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ใช้บรรจุภัณฑ์น้อยลง คุณอาจเห็นเทรนด์ “ความละอายในการใช้บรรจุภัณฑ์” เกิดขึ้นแล้วบนโซเชียลมีเดีย ผู้บริโภคพากันโพสต์ภาพสิ่งของชิ้นเล็กๆ ที่ถูกส่งมาในกล่องและใช้วัสดุห่อหุ้มมากเกินความจำเป็น

เพื่อไม่ให้ผู้บริโภครู้สึกแย่ คุณอาจลองสำรวจทางเลือกเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนที่ไม่ใช้พลาสติก มีบริษัทมากมายในอุตสาหกรรมนี้ที่นำเสนอบรรจุภัณฑ์ที่ใช้นวัตกรรมใหม่ๆ เช่น Noissue ซึ่งออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ตามสั่ง โดยใช้วัสดุที่ใช้ซ้ำได้ รีไซเคิลได้ หรือย่อยสลายได้ 100%

คำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

คุณจะตั้งเป้าความยั่งยืนได้ก็ต่อเมื่อคุณรู้ว่าธุรกิจของคุณยืนอยู่ตรงจุดไหน การนำซอฟต์แวร์อย่าง Planetly’s Climate Impact Manager เข้ามาใช้ จะช่วยให้คุณหาช่องโหว่ที่เป็นสาเหตุของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเปรียบเทียบกิจกรรมที่ทำให้เกิดก๊าซเหล่านั้นกับของคู่แข่ง และจากจุดนี้ คุณจะเริ่มต้นทำการเปลี่ยนแปลงได้ เช่น คุณสามารถเลือกได้ว่าคุณควรลดการใช้ไฟฟ้าในออฟฟิศและคลังสินค้า หรือควรเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน เริ่มต้นคำนวณตั้งแต่วันนี้เลย!

ใช้ระบบไฟฟ้าในการส่งของไปต่างประเทศ

ส่วนสำคัญของอีคอมเมิร์ซซัพพลายเชนก็คือการขนส่ง ผลการศึกษาของ Boston Consulting Group พบว่า กิจกรรมการขนส่งเป็นตัวการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 17% บนโลกใบนี้ การเป็นคู่ค้ากับผู้ให้บริการลอจิสติกส์ระดับโลกที่มีพันธกิจเพื่อความยั่งยืน คือวิธีการที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่จะช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการส่งของไปต่างประเทศ

DHL Express มีพันธกิจยิ่งใหญ่ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net-zero emissions) ในปี 2050 และเพื่อบรรลุพันธกิจนี้ เราตั้งเป้าที่จะนำไฟฟ้ามาใช้ในการขนส่งขาสุดท้ายให้ได้ 60% และนำยานพาหนะไฟฟ้ามาใช้สำหรับการขนส่งทางบกให้ได้ 80,000 คัน ในปี 2030 ล่าสุด เมื่อเดือนสิงหาคม 2021 เรายังได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการการบิน ด้วยการสั่งซื้อเครื่องบินไฟฟ้า Alice 12 ลำ จาก Eviation ผู้ผลิตเครื่องบินไฟฟ้าระดับแนวหน้าของโลก เพื่อสร้างเครือข่ายการขนส่งด่วนด้วยเครื่องบินไฟฟ้าและบุกเบิกการบินอย่างยั่งยืนด้วย

ส่วน DHL Express ประเทศไทยเอง ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2020 ก็ได้มีการนำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารวม 50 คันมาให้บริการรับ-ส่งเอกสารและพัสดุระหว่างประเทศ ซึ่งมีผู้ส่งหรือผู้รับอยู่ในประเทศไทย ครอบคลุมเส้นทางย่านดอนเมือง พระราม 9 พระราม 3 บางแคและบางนา โดยเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ขับเคลื่อนโดยระบบไฟฟ้า 100% และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 10,000 ต้นในแต่ละปี

ชดเชยการปล่อยคาร์บอน

คุณเคยช้อปออนไลน์แล้วพบว่าแบรนด์ที่คุณกำลังซื้อจะปลูกต้นไม้เพื่อ “ชดเชย” สิ่งที่คุณซื้อรึเปล่า การแสดงเครื่องยืนยันว่าแบรนด์ใส่ใจสิ่งแวดล้อมกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งทำได้ด้วยการเสนอแผนชดเชยคาร์บอนให้กับลูกค้า ClimatePartner เป็นโซลูชั่นด้านความยั่งยืนสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ช่วยคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และนำเสนอแผนการปกป้องสิ่งแวดล้อมที่ผู้ขายสามารถเลือกใช้เพื่อชดเชยการปล่อยคาร์บอนได้

ส่งของไม่ถึงก็เป็นผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม

คุณเกลียดเวลาของจากต่างประเทศมาส่งตอนที่คุณไม่อยู่บ้าน เลยทำให้ต้องรอรับของในวันถัดไปใช่มั้ยล่ะ ใช่เลย ลูกค้าของคุณก็เหมือนกัน

รายงานปี 2021 จาก CBG พบว่าธุรกิจในประเทศอังกฤษกว่า 24% ประสบปัญหาของทุกๆ 1 ใน 10 ออเดอร์ส่งมอบไม่ถึงมือผู้รับในการส่งครั้งแรก การส่งของไม่สำเร็จนี้ทำให้บริษัททั่วโลกต้องสูญเงินนับพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในแต่ละปี โดย 68% ของผู้ที่ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าการส่งของไม่ถึงและการส่งของไม่ทันเวลานี้เป็น “ต้นทุนมหาศาล” ในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนั้น การส่งของไปต่างประเทศรอบต่อไปยังหมายถึงการปล่อยคาร์บอนมากกว่าเดิมด้วย

ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ DHL Express มีวิธีที่ช่วยให้คุณลดอัตราการส่งของไปต่างประเทศไม่ถึงมือผู้รับได้

•    ให้ลูกค้าเลือกวันรับของได้ตามเวลาที่สะดวก ด้วยโซลูชั่น On Demand Delivery สะดวกกับทั้งผู้ส่งและผู้รับ

•    เมื่อคุณส่งของไปต่างประเทศ ลูกค้าของคุณสามารถเลือกเปลี่ยนสถานที่รับของได้ หากเขาไม่อยู่บ้าน เช่น ใช้ล็อคเกอร์รับฝากพัสดุและจุดบริการของ DHL Express ในขณะที่เจ้าหน้าที่คูเรียร์สามารถส่งพัสดุจำนวนมากให้ถึงมือผู้รับที่ปลายทางในครั้งเดียว จึงช่วยประหยัดเงินให้กับธุรกิจ และลดการปล่อยก๊าซที่เกิดจากการขนส่ง

•    ลงทุนกับเทคโนโลยีตรวจติดตามที่ให้คุณสามารถอัพเดทสถานะชิปเมนต์การส่งของไปต่างประเทศทางอีเมลและ SMS ให้ลูกค้าทราบได้

ทั้งหมดนี้ เป็นการริ่เริ่มของเราที่ต้องการเป็นแบบอย่างในอุตสาหกรรมลอจิสติกส์เพื่อลดผลกระทบต่อสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าคุณจะเป็นลูกค้าธุรกิจหรือลูกค้าบุคคล คริสต์มาสและปีใหม่นี้ ให้ DHL Express เป็นตัวแทนส่งมอบของขวัญไปให้คนที่คุณรัก และให้คุณส่งของไปต่างประเทศถึงมือลูกค้าของคุณ ครอบคลุม 220 ประเทศทั่วโลกอย่างมีประสิทธิภาพและมีความรับผิดชอบ

DHL Express  เป็นผู้นำด้านการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ เราให้บริการขนส่งด่วนแบบ door-to-door สู่จุดหมายปลายทางกว่า 220 ประเทศทั่วโลก มีทีมงานประจำอยู่ในทุกประเทศ พร้อมให้บริการด้วยความเป็นมืออาชีพ คุณจึงมั่นใจได้ว่าทุกการส่งของไปต่างประเทศจะถึงมือผู้รับปลายทางอย่างรวดเร็ว ราบรื่น และปลอดภัยแน่นอน

ส่งของไปต่างประเทศช่วงคริสต์มาส เริ่มต้นอย่างไร

1.   เข้าไปที่เว็บไซต์ MyDHL+

2.   กรอกรายละเอียดของประเทศต้นทาง และปลายทางของการจัดส่งสินค้า

3.   เลือกประเภทชิปเมนต์ที่จัดส่ง ว่าเป็นเอกสาร หรือพัสดุ

4.   ระบุขนาดของชิปเมนต์ จะปรากฎหน้าจอแสดงอัตราค่าบริการส่งของไปต่างประเทศโดยประมาณผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ ใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ MyDHL+ , ติดต่อ Customer Service เพื่อนัดรับชิปเมนต์ หรือนำส่งชิปเมนต์ด้วยตัวเองที่จุดบริการ DHL Express ใกล้คุณ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าผ่าน Live Chat ที่ปุ่มมุมขวาล่าง วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-17.00 น. หรือโทร. 02-345-5000 (24 ชั่วโมง) หากต้องการเช็กราคาส่งของไปต่างประเทศ หรือทำรายการส่งเลย คลิก MyDHL+